6 ท่าโยคะก่อนนอน ได้ผลดีกว่าวิ่งหรือเดิน ช่วยยืดเส้นยืดสาย ชะลอวัย ดีต่อสุขภาพ
คอมเมนต์:
หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ
ปัจจุบันโยคะเป็นที่นิยมอย่างมากของคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มสาว วัยกลางคน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุก็ยังฝึกฝนได้ เพราะถือเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก การฝึกโยคะอย่างถูกวิธีนอกจากทำให้มีสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยบำบัดรักษาโรคภัยได้สารพัดอีกด้วย
คนวัยเกษียณอายุในปัจจุบันนี้จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อสุขภาพของตนเอง ทุกวันจึงไปเดินออกกำลังกาย เต้นรำ รำมวย และอื่นๆ วันนี้เราจะมาขอแนะนำท่าออกกำลังกายแบบง่ายๆก่อนนอน ซึ่งเมื่อทำในระยะยาว จะมีผลดีต่อ กระดูกเส้นเอ็นและสุขภาพอย่างยิ่ง
Sponsored Ad
ตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา ประเทศอินเดียได้นำโยคะไปใช้ในทางบำบัดรักษาโรคหลายอย่าง และได้ทำการวิจัยในด้านจิตวิทยา ประสาทวิทยา กายวิภาคศาสตร์ เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อมและนรีเวชวิทยา เป็นต้น หลังจากทำการรักษาให้ผู้ป่วยมากกว่า 10,000 ราย พบว่าอาการของผู้ป่วยส่วนใหญ่นั้นดีขึ้น
การฝึกโยคะสามารถช่วยชะลอวัยและดีต่อสุขภาพ มีครูสอนโยคะชาวอินเดียคนหนึ่ง สอนโยคะมานานกว่า 70 ปี ซึ่งเป็นครูสอนโยคะที่มีอายุมากที่สุดในโลก ปัจจุบันเธอมีอายุ 96 ปี แต่ยังดูสดใสมาก เธอบอกว่านี่คือพลังของการฝึกโยคะ
Sponsored Ad
นอนคว่ำวันละ 10 นาทีก่อนนอน ได้ผลดีเหมือนวิ่งเป็นชั่วโมง
การปฏิบัติ : เพียงแค่นอนคว่ำบนเตียงก็ใช้ได้แล้ว
ประโยชน์ : ทําวันละ 10 นาที ไม่เพียงส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต แต่ยังช่วยยืดกล้ามเนื้อที่แข็ง และยังช่วยนวดอวัยวะในร่างกาย ฝึกให้ดีจะเป็นตัวช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ
ท่ายืดตัวเหมือนแมว
ช่วยยืดกระดูกและเส้นเอ็น บรรเทาอาการปวดหลังและไหล่
การปฏิบัติ : คุกเข่า สองมือและลำตัวส่วนบนแนบไปกับพื้น ยืดไหล่ และกระดูกสันหลังทุกส่วน
Sponsored Ad
ประโยชน์ : ยืดบริเวณหลังส่วนบนและส่วนกลาง เปิดข้อต่อไหล่ บำรุงหัวใจ กระดูกสันหลังให้ชุ่มชื่น กระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ ยืดแขน ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อของกระดูกไหล่ และบรรเทาอาการปวดที่ไหล่และหลัง
ชมวิดีโอ
พยายามทำท่าโยคะนี้ทุกวัน
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<
ท่าผีเสื้อ
ควบคุมระบบปัสสาวะได้ผลอย่างดีเยี่ยม
การปฏิบัติ : นั่งบนพื้นหรือเตียง เอาเท้าสองข้างประกบเข้าด้วยกัน มือสองข้างจับสองเท้า ให้ขาทั้งสองขยับขึ้นลง เหมือนปีกผีเสื้อกำลังบิน ทำวันละ 5 นาที
Sponsored Ad
ท่าผีเสื้อยังสามารถทำให้ง่ายขึ้น ด้วยการนั่งประกบฝ่าเท้าเข้าด้วยกัน แล้วเอียงลำตัวส่วนบนมาด้านหน้า ค้างไว้ 10 กว่าวินาที แล้วเอนกลับไปตั้งตรง ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง ปรับความยากของระดับที่ก้มลงมาตามความสามารถของร่างกาย
ประโยชน์ : ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปทางด้านหลังและช่องท้อง ช่วยขจัดปัญหาทางเดินปัสสาวะและอาการเจ็บสะโพก สามารถช่วยยืดกระดูกสันหลังและหลังส่วนล่าง ยืดต้นขาด้านใน กระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไต ตับ ม้าม และ กระเพาะปัสสาวะด้านล่างผ่านต้นขาด้านใน
Sponsored Ad
ท่าโยคะผีเสื้อ : สำหรับผู้หญิงช่วยในส่วนของสะโพก สำหรับผู้ชายมีผลต่อสุขภาพต่อมลูกหมาก
ท่าสฟิงซ์
บรรเทาอาการปวดหลังควบคุมต่อมไทรอยด์
การปฏิบัติ :
Sponsored Ad
1. นอนคว่ำ วางสองมือไว้บนพื้นข้างไหล่ โดยปลายนิ้วต้องไม่เลยไหล่
2. ยืดขาตรง ให้หน้าขาแนบไปกับพื้น พอหายใจเข้าครั้งนึง ใช้กำลังช่วงหลังดึงตัวขึ้นมาจากพื้น
3. พอยกลำตัวส่วนบนจนถึงระดับที่ยกไม่ได้อีกแล้ว ให้ใช้กำลังของแขนสองข้างรักษาระดับของลำตัวส่วนบนไว้ อย่ายักไหล่
4. ค้างไว้ 3-5 ลมหายใจ ทำซ้ำหลายๆครั้ง
ประโยชน์ :
บีบและกระตุ้น iliopsoas ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับกระดูกสันหลัง กระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ ไตผ่านหลังส่วนล่างและกระดูกใต้กระเบนเหน็บ (sacrum) กระตุ้นม้าม ไต ต่อมหมวกไต ท่านี้สามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้ดีเยี่ยม สามารถกระตุ้นต่อมไทรอยด์และต่อมพาราไธรอยด์
Sponsored Ad
นั่งคุกเข่าบนส้นเท้า
ช่วยยืดเส้นยืดสาย เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย
การปฏิบัติ : นั่งคุกเข่า ฝ่าเท้าชี้ไปด้านหลัง ค้างไว้ 30 วินาที พักสักครู่ ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
ประโยชน์ : กระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต เลือดวิ่งไปเลี้ยงฝ่าเท้าได้ยากกว่าส่วนอื่น ถ้าทำให้เลือดไปเลี้ยงเข่าเพียงพอ ก็จะไม่ไกลจากฝ่าเท้า เพิ่มความแข็งแรงให้เท้า นิ้วเท้า และข้อเท้า กระตุ้นเส้นประสาทในส่วนล่างของร่างกาย ช่วยในการเปิดม้าม ตับ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร
นอนหงายประกบเท้า
เสริมสร้างไตและช่วยเสริมสร้างกระดูก ช่วยบรรเทาอาการปวดสะโพก
การปฏิบัติ : นอนหงาย งอเข่าไปด้านนอก ประกบฝ่าเท้าเข้าด้วยกัน สองขาแยกออกจากกัน สองมือวางหงายผ่อนคลายด้านข้าง ค้างไว้ 1 นาที พักแล้วทำต่ออีก 3-5 ครั้ง
ประโยชน์ : ท่านี้ช่วยเปิดเข่า บรรเทาความรู้สึกไม่สบายของเส้นประสาทที่เกิดจากการนั่งนานๆ
ท่าเหล่านี้เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ตอนเริ่มทำแรกๆ ต้องระวังขีดจำกัดของร่างกาย ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่าหักโหม เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ สำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ที่มา : LIEKR