เปิดคำพยากรณ์ "นอสตราดามุส" ในปี 2023 อดีตหมอดูชื่อดัง เคยทำนายไว้ ตอนยังมีชีวิต

คอมเมนต์:

เปิดคำทำนาย #นอสตราดามุส 2023 เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน โลกถึงกาลวินาศ แม่นหรือมั่วต้องรอดู....

    เชื่อว่า.. ขึ้นต้นปีใหม่แบบนี้ หลายคนคงมีที่พึ่งทางใจ ไม่ว่าจะเป็นการไปวัดทำบุญ หรือแม้แต่การดูคำพยากรณ์ ซึ่งมีหลายสำนักข่าว ได้เผยคำทำนายของ นอสตราดามุส หมอดูชื่อดังระดับโลกในอดีต ที่เคยเขียน ไว้ในหนังสือ Les Propheties ที่ตีพิมพ์ในปี 1555

    โดยเขาทำนายไว้ว่าในปี 2023 โดยในคำทำนายถึงสงคราม นอสตราดามุส ระบุว่า "สงครามใหญ่ 7 เดือน ผู้คนจะล้มตายด้วยน้ำมือปีศาจ" คำทำนายนี้ สื่อว่าจะเกิดสงครามใหญ่ในปี 2023 ซึ่ง สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันที่ทั่วโลกทวีความตึงเครียด ระหว่างประเทศมหาอำนาจ ทั้งประเด็นระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และเหล่าประเทศพันธมิตร

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ ยังมีประเด็นความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน ที่อาจจะดึงให้สหรัฐฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง ตลอดจนความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดีย ที่มักจะมีการสู้รบเหนือดินแดนพิพาท ซึ่งแต่ละประเทศที่มีความขัดแย้งกัน ล้วนแต่เป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ทั้งสิ้น

 

Sponsored Ad

 

    อย่างไรก็ตาม คำว่า 7 เดือน อาจจะเป็นการสื่อถึงการใช้เวลา กว่าทุกอย่างจะจบลง ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะเป็นหายนะทางเศรษฐกิจและประเทศนั้น ๆ รวมถึงประเทศคู่ค้า นอกจากนี้ นอสตราดามุส ยังทำนายว่า "รวงข้าวสาลีจะสูงเสียดฟ้า จนคนหันมากินคนด้วยกันเอง"

    คำทำนายอันน่าสะพรึงนี้ สื่อถึงความล่มสลายของระบบอาหาร ที่ทำให้มนุษย์สิ้นหวังจนถึงขั้นต้องหันมากินกันเอง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะขาดแคลนอาหารของโลก ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสงครามในยูเครน อันเป็นแหล่งผลิตข่าวสาลีที่มีการส่งต่อไปยังประเทศอื่น รวมถึงประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ของโลก ก็ยังคงต้องดิ้นรนในการฟื้นตัว

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากปัญหาค่าอาหารทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น จนเกิดวิกฤตค่าครองชีพ และเพิ่มอัตราความยากจน ยังมีรายงานจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองแนวโน้มเศรษฐีในปี 2023 ไว้ว่า "สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง" และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลก

    ด้านหายนะทางสภาพอากาศ นอสตราดามุส ทำนายว่า "เป็นเวลา 40 ปีที่จะไม่เห็นสายรุ้ง และอีก 40 ปีที่จะเห็นทุกวัน แผ่นดินที่แห้งเหือดจะแห้งผากหนักขึ้น และจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อเห็นมัน"

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : Dailymail