เปิดใจ อาโย ทัศน์วรรณ เผยเคยใช้ชีวิตร่วมกับ สรพงษ์ ชาตรี ลั่นเป็นรักแรกและรักสุดท้ายในชีวิต พร้อมเผยเหตุแยกทางกันทั้งที่มีลูก 1 คน ชี้ไม่ได้ถูกทิ้งแต่เป็นคนออกมาเอง รับไม่ได้เรื่องมือที่สาม !

          เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากฝีมือที่มีละครออกมาให้ชื่นชมหลากหลายบทบาท สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่  เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ที่ล่าสุดออกมาเปิดใจ ถึงอดีตคนเคยรักว่าเป็นรักแรก รักเดียว และรักสุดท้ายของชีวีต สรพงษ์ ชาตรี

    อาโย ทัศน์วรรณ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองนั้นแจ้งเกิดจากหนังเรื่องแม่อายสะอื้น ได้เงินล้านเลย แถมตอนนั้นคนดูทะลักลงมาที่ถนนหน้าโรงหนังเพชรรามา

    เธอยังเล่าต่อว่า ตอนนั้นได้รับฉายาว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ เพราะเกิดผิดยุค คนยุคนั้นต้องมีอก เอว สะโพก มีเนื้อมีหนัง แต่ตนเองนั้นมีรูปร่างในตอนนั้นเป็นหุ่นของเด็กสมัยนี้ คือ ผอม สูง เพรียว แล้วก็ไม่ชอบแต่งหน้าจัด

    ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการจนปัจจุบัน อาโยเล่นหนังมากแล้วเกือบ 100 เรื่อง ส่วนละครน่าจะเกิน 200 เรื่อง

    หากถามว่า อดีตคนคุ้นเคยของอาโย ที่เรียกว่ารักแรก รักเดียว และรักสุดท้ายในชีวิต คือ อาเอก สรพงษ์ จริงไหม เธอก็ได้ตอบว่า จริง เพราะเขาคือสเปก แต่ตอนนั้น ไม่ใช่ไม่มีคนมาจีบนะ แต่อาโยไม่เคยไปเป็นแฟนใคร เป็นคนรักคนยาก

    แม้จะเป็นคนรักใครยาก แต่อาสรพงษ์ ก็สามารถทลายกำแพงในหัวใจได้ เนื่องจากความผูกพัน มันเริ่มจากเรื่องเล็กน้อย เวลาบาดเจ็บในกองถ่าย เขาก็จะพาไปหมอ ดูแลเอาใจใส่

.

    อาโย ยังบอกอีกว่า ชีวิตรักสมัยนั้นก็ไม่สบายเหมือนสมัยนี้ เพราะไม่สามารถเปิดเผยได้ หากคบกันรักกันก็ต้องปิดบังเองไว้ ไม่ว่าพระเอกหรือนางเอกคนไหน ไปมีครอบครัวหรือภาพหลุด เรตติ้งก็ตก คนก็ไม่นิยมแต่ไม่ถึงกับไม่มีงาน แต่ของอาโยยุคปลาย ๆ แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ปิดบังอะไรมากมาย เพราะเจอกันในกองถ่าย

    หากถามว่าทำไมถึงมั่นใจและตกลงว่าเป็นคนนี้ สาเหตุมาจากอะไร อาโยได้บอกว่า ตอนนั้นตั้งท้องขึ้นมา ซึ่งเป็นข่าวดังมาก ๆ 

    อาโบบอกว่า ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าตัวเองท้อง แต่มันมีคนพอจะเดาออก เพราะตนเองนั้นไม่ค่อยสบาย พูดง่ายๆ ก็คือ แพ้ท้อง และมีสื่อเอาทำข่าวว่าน่าจะท้อง จนสุดท้ายโดนสะกดรอยตามไปตอนหาหมอ 

    ตอนนั้นที่กลายเป็นข่าว ไม่ได้ออกมาแถลงหรือตั้งโจ๊ะ แต่มีนักข่าวมีคนพยายามมากดออด เคาะ ถึงหน้าบ้านเพื่อถามกับนั้นเลย

    หากถามว่ามีผลกระทบต่องานหรือเรตติ้งไหม อาโยได้บอกว่า ตอนนั้นแฟน ๆ เขาก็จะจับคู่ให้กันอยู่แล้ว อยากให้สมหวัง เป็นแฟนกัน ก็มีคนสมหวังกันเยอะ เรื่องลูกเนี่ยตั้งแต่ข่าวท้องถึงคลอดเขาก็ติดตามเรื่องลูกสาวมาตลอด ยิ่งเขาสอบติดจุฬาฯ ออกทีวีตั้งไม่รู้กี่รายการ

    อาโยยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ไม่จัดงานแต่ง ก็เป็นเพราะว่า ท้องไปแล้ว ไม่อยากจัดงานให้เปลืองเงินด้วย จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ไม่อยากจะจัดงาน แต่ถ้าจะจัดก็จัดเป็นงานเล็ก ๆ พอ หรือรับรู้กันภายในญาติพอ

.

    แม้ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่ยังร่วมงานกันได้ ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ไม่เคยทะเลาะกันเลย การที่เราห่างกันไปอาโยก็เป็นคนถอยออกมา เพราะเราคิดว่ามันวุ่นวาย ความสงบมันน้อย ความสุขมันก็น้อย เพราะฉะนั้นเราก็เลือกในทางที่ไปแล้วมันสุขและสงบดีกว่าไหม

    สาเหตุที่ต้องแยกกัน ต่อให้รักใครมากแค่ไหนต้องรักตัวเองมากกว่า เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขามีคนเข้ามาเยอะ เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่มีปัญหา มันอยู่ที่ตัวเราเลือกว่าเราจะเป็นนางยักษ์นางมารไปบู๊กับเขามั้ย หรือเราจะถอยออกมาแล้วมีชีวิตอย่างสงบ สุขสบาย อาจจะมีเสียใจ เพราะตอนนั้นเราก็ยังรักเขาอยู่ แต่ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ถามว่าเสียใจมั้ย มันก็เป็นธรรมดาของปุถุชน

    หากถามว่า เคยเสียใจหนักขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องของความรัก "ก็เสียใจว่าทำไมมันต้องมีปัญหา แล้วเราจะทำยังไง แต่เราไม่ปล่อยให้นาน มันไม่มีประโยชน์ มานั่งคร่ำครวญ ในขณะที่เราเศร้าเสียใจ แต่อีกฝ่ายแฮปปี้มีความสุข เราเสียเปรียบ"

    ตอนนั้นไม่มีการจับเข่าคุยกัน ในเมื่อฉันถอยไปแล้วอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันเลี้ยงลูกเอง เขาก็เคยมีง้อบ้าง 2-3 ครั้ง ก็กลับมา แต่เขาก็มีอีก โอเคทีนี้จบละ เมื่อก่อนคนชอบคิดว่าอาโยถูกทิ้ง แต่ไม่ใช่ เราเป็นคนถอยออกมา คนทั้งวงการคิดว่าอาโยถูกทิ้ง หลาย ๆ อย่างที่คนในสังคมเขารู้นี่ตรงกันข้ามเลย อาโยเป็นคนถอยออกมา

    อาโยเป็นคนที่ไม่ว่าจะรักใคร ก็จะรักจริง ๆ ลูกนี่เป็นอะไรที่รักสุดชีวิต ก็จะเลี้ยงดูเขา ให้เวลาเขาเต็มที่ ให้จนเขารู้สึกว่าเขามีพร้อมหมดเลย

    หากถามว่าเคยเห็นอดีตคู่จิ้นไปเดตกับคนอื่นไหม "เห็น อาโยถือว่าถ้าไปเจอเขากลางถนน ไปเจอเขาที่อื่น เขาก็ไม่ใช่แฟนเรา ไม่ใช่สามีเรา เขาก็เห็นเรานะ เขาก็มาถามเราว่าทำไมเห็นเขาแล้วเฉย แล้วจะให้เราทำยังไงอะ จะให้วิ่งไปหึงหวง วิ่งไปแหกปากเหรอ ไม่เอาหรอก น่าเกลียด"

 พิธีกรเองก็ได้ถามว่า อาโยคิดว่าถ้าสามีเราออกนอกบ้านไปก็เป็นคนอื่นแล้วใช่ไหม อาโยก็ได้ตอบกลับไปว่า "ถูกต้อง ค่านิยมของผู้ชายไทยตั้งแต่ยุคไหนมาแล้วคือมีบ้านเล็กบ้านน้อยถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา สังคมไม่ประณาม แต่ผู้หญิงไม่ได้เลย"

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : คุยแซ่บSHOW / sanook / kapook