หลังจากที่พระเอกหนุ่ม "บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์" ถูกต้นสังกัดยุติสัญญา หลังเข้าไปพัวพันกับปมหวยทิพย์ 24 ล้านบาท ที่เป็นข่าวโด่งดังสะเทือนวงการกันเลยทีเดียว

    ล่าสุด "บิ๊กเอ็ม" ได้โพสต์ภาพตัวเองเข้าพบผู้ใหญ่ต้นสังกัดเดิม พร้อมระบุข้อความสุดซึ้งว่า "ไม่ว่าชีวิตจะผ่านอะไรมาบ้าง คนในครอบครัวคือคนแรกที่รักและอยู่เคียงข้างเราเสมอ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ที่ผมก้าวออกจากบ้าน พี่น้องทุกคนก็รักและให้กำลังใจผมเสมอมา

    "วันนี้ผมได้รับคำแนะนำที่ดีมากๆ และคำอวยพรจากผู้ใหญ่ที่ผมรักทุกท่าน รวมถึงพี่น้องเยอะมากครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมจนผมมีทุกวันนี้ได้เพราะความรักความเมตตาจากผู้ใหญ่ทุกคนจริงๆ ครับ"

    "ยอมรับว่าใจหาย.. เพราะคิดถึงช่วงเวลาที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แต่พอได้เห็นรอยยิ้มและการต้อนรับของพี่ๆ ทุกคน ผมก็ได้รับรู้ว่า เราไม่ได้หายไปไหน เราอยู่ในใจของทุกคนเสมอ… ขอบคุณแฟนๆ วันนึงผมจะกลับมาหาทุกคนนะครับ"

    นอกจากนี้ พระเอกหนุ่ม ยังออกมาเปิดใจอีกว่า "ที่ผ่านมาเหมือนเจอมรสุมลูกใหญ่ ตอนนั้นก็ดาวน์ไปหมดทั้งตัวผมเองและคนในครอบครัวด้วย เหมือนเราได้บทเรียนชีวิตอย่างหนึ่ง เหมือนคลื่นลูกใหญ่พัดพังปราสาททรายของเรา ซึ่งมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสร้างใหม่ไม่ได้"

    "เราก็ต้องเริ่มต้นใหม่ใช้ชีวิตให้มันมีสติทุกอย่าง ทำอะไรเราก็ต้องปรึกษากันทั้งผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดที่มีประสบการณ์ ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็ต้องปรึกษากันก่อน เราจะไม่ทำอะไรโดยพลการ ต้องปรึกษาผู้ใหญ่เยอะๆ" 

    "พอทุกอย่างเริ่มเคลียร์ ผมก็เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง และมีความคิดอย่างหนึ่งว่าเราต้องเดินต่อเราต้องมูฟออนจากตรงนี้ให้ได้"

    "ช่วงที่ผมหายไปนั่นเป็นช่วงที่ผมรักษาตัวเองทั้งจิตใจและร่างกาย คุณแม่จะบอกตลอดเลยว่าต้องลุกขึ้นมา อย่าจม เพราะถ้าสภาพจิตใจเรามันแย่ทุกอย่างก็จะแย่ตามไปหมด" 

    "แต่ถ้าคิดว่าเราต้องเดินหน้าต่อ กลับมาอย่างไรให้สง่างาม ถ้าจิตใจเราเข้มแข็งก่อนทุกอย่างมันก็จะตามมาเอง แต่ช่วงที่เราดาวน์จริงๆ ผมก็ปล่อยตัวเองเต็มที่เลย มันจมจริงๆ ครับ"

    "ผมมองว่าการที่เราเป็นนักแสดงเป็นคนที่มีชื่อเสียง เราไม่เคยมีข่าวเสียหายใดๆ เราสร้างแต่สิ่งที่ดีมาตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ช่อง 7 มันก็ไม่แปลกใจที่ถ้าวันหนึ่งผมเกิดสะดุดล้ม หรือพลาดขึ้นมาแล้วมันจะเป็นข่าวใหญ่โต และทุกคนจะรู้สึกเสียใจไปกับเรามันก็ไม่แปลก"

    "มันก็ได้สัจธรรมอย่างหนึ่งขึ้นมาว่าเราเป็นบุคคลสาธารณะ เรายืนอยู่ตรงกลางสปอตไลต์และมีคนรอบข้างที่เขายืนอยู่ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะทำอะไรมันสว่างหมดเลย เราเป็นคนที่อยู่ในที่สว่าง เราก็ต้องทำอะไรที่มันสว่างด้วย เราก็ได้บทเรียน"

โพสต์ต้นฉบับ

ที่มา : bigm_krittarit, ข่าวสดออนไลน์